ผมร่วงเป็นหย่อมเกิดจากอะไร

ผมร่วงเป็นหย่อมเกิดจาก ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งมีหลายปัจจัยที่อาจกระตุ้นให้เกิดขึ้น เช่น:

อาการของผมร่วงเป็นหย่อม 

  • ผมร่วงเป็นหย่อมกลมๆ หรือวงรี ขนาดเล็กถึงใหญ่ มักไม่มีอาการแสบหรือคัน
  • อาจมีลักษณะของ “ขนคล้ายจุดอัศเจรีย์” (exclamation mark hairs) ที่เส้นผมรอบๆ หย่อมผมร่วง
  • ในบางรายอาจลุกลามมากขึ้นและกลายเป็นผมร่วงทั่วทั้งศีรษะ (Alopecia Totalis) หรือทั่วทั้งร่างกาย (Alopecia Universalis)

การรักษา 

การรักษาผมร่วงเป็นหย่อมมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและสภาพร่างกายของผู้ป่วย เช่น การใช้ยาทาสเตียรอยด์ การฉีดสเตียรอยด์เข้าที่บริเวณที่ผมร่วง การใช้ยากระตุ้นการงอกของผม การทำ PRP การรักษาด้วยแสงเลเซอร์ หรือวิธี Regenera Activa

ผมร่วงเป็นหย่อมสามารถรักษาให้ 

การรักษาผมร่วงเป็นหย่อม การรักษาผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata) มีหลายวิธีขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการและลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล โดยทั่วไปแล้วการรักษามุ่งเน้นที่การกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมใหม่ และลดการอักเสบที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานผิดปกติ

วิธีการรักษาที่นิยม ได้แก่: 

1. การใช้ยาทา (Topical Treatments): 

  • Minoxidil: ใช้ทาบริเวณที่มีปัญหาเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม มักใช้ในความเข้มข้น 2% หรือ 5%
  • ยาทาสเตียรอยด์: เช่น Clobetasol หรือ Betamethasone ช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม

2. การฉีดสเตียรอยด์ (Corticosteroid Injections): 

  • เป็นวิธีที่นิยมใช้สำหรับผู้ที่มีอาการผมร่วงในบริเวณเล็ก ๆ แพทย์จะฉีดสเตียรอยด์เข้าไปยังจุดที่มีการร่วง ซึ่งช่วยลดการอักเสบและกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม โดยมักฉีดทุก 4-6 สัปดาห์

3. การใช้ยาในรูปแบบรับประทาน (Oral Medications): 

  • Corticosteroids: สำหรับกรณีที่อาการรุนแรงหรือมีการแพร่กระจายของผมร่วงมากอาจใช้ยารูปแบบรับประทาน แต่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
  • ยากดภูมิคุ้มกัน (Immunosuppressants): เช่น Methotrexate หรือ Cyclosporine ใช้ในกรณีที่อาการรุนแรงและรักษาไม่ได้ด้วยวิธีอื่น

4. การรักษาด้วยแสงเลเซอร์ (Low-Level Laser Therapy): 

  • ใช้แสงเลเซอร์ระดับต่ำกระตุ้นการไหลเวียนเลือดในบริเวณที่ผมร่วง ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผม

5. การรักษาด้วย PRP (Platelet-Rich Plasma): 

  • ใช้เลือดของผู้ป่วยเองมาสกัดเกล็ดเลือดแล้วฉีดกลับไปยังบริเวณที่มีปัญหา เพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม

6. การรักษาด้วยสารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน (Topical Immunotherapy): 

  • ใช้สารเช่น Diphenylcyclopropenone (DPCP) กระตุ้นการอักเสบเล็กน้อยในบริเวณที่มีปัญหา ซึ่งช่วยกระตุ้นให้รากผมงอกใหม่

7. การรักษาทางเลือกและการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต: 

  • การลดความเครียด: การฝึกโยคะ การทำสมาธิ และการออกกำลังกายสามารถช่วยลดความเครียด ซึ่งอาจมีผลต่อการเกิดอาการผมร่วง
  • การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อสุขภาพเส้นผม เช่น โปรตีน สังกะสี และธาตุเหล็ก

ควรปรึกษาแพทย์ 

การรักษาผมร่วงเป็นหย่อมควรได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินอาการและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับสภาพของแต่ละบุคคล รวมถึงการติดตามผลการรักษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ